Ranong Frozen Foods Co.,LTD.
บริษัท ระนองโฟรเซ่นฟู้ดส์ จำกัด

ปลาหมึกคอเลสเตอรอลสูงกินแล้วเสี่ยงโรคจริงหรือ ??

หลายคนคงเคยได้ยินคำเตือนจากคนรอบ เกี่ยวกับปลาหมึก ว่ามีไขมันคอเลสเตอรอลสูง คนมีคอเลสเตอรอลสูงไม่ควรรับประทาน ข้อมูลนี้จะจริงหรือไม่ RFF News มีข้อมูลมาเล่าสู่กันฟังดังนี้

ปลาหมึก

ปลาหมึกมีหลากหลายสายพันธุ์ แต่ที่นิยมนำมาบริโภค ได้แก่ ปลาหมึกกล้วย ปลาหมึกกระดอง และปลาหมึกสาย

สารอาหารที่ได้จากปลาหมึก

ในปลาหมึกกล้วยสดที่หนัก 85 กรัม ประกอบด้วยสารอาหาร โปรตีน 13.2 กรัม ไขมันคอเลสเตอรอล 198 มิลลิกรัม ไขมันอิ่มตัว 0.3 กรัม ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 0.09 กรัม และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 0.4 กรัม โอเมก้า 3 วิตามินอี โปรตีน และแร่ธาตุต่างๆ

แม้จะอุดมไปด้วยไขมัน แต่ปลาหมึกก็มีโปรตีนสูง ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยสร้างความแข็งแรงแก่ร่างกาย ช่วยในการทำงานของกระดูก กล้ามเนื้อ และผิวหนัง และไขมันบางชนิดที่พบในปลาหมึกก็เป็นไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วยเช่นกัน

มีการค้นคว้าเกี่ยวประโยชน์และผลกระทบต่อสุขภาพของปลาหมึกไว้ดังนี้

  • ปลาหมึก เพิ่มไขมันดี ลดไขมันเลว

จากการวิจัยให้ผู้ชายซึ่งมีระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ 18 คน บริโภคอาหารทะเลที่แตกต่างกัน 6 ชนิด คือ ปลาหมึกกล้วย ปู กุ้ง หอยนางรม หอยแมลงภู่ และหอยกาบ พบว่าปลาหมึกกล้วยและกุ้งมีไขมันคอเลสเตอรอลสูงกว่าอาหารชนิดอื่น ในขณะที่มีไขมันโอเมก้า 3 ต่ำกว่า แต่ไม่พบการเปลี่ยนแปลงของระดับไขมันในเลือดของผู้บริโภค ยิ่งไปกว่านั้น ปลาหมึกกล้วย หอยแมลงภู่ และหอยนางรมช่วยเพิ่มไขมันคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี (HDL) ให้แก่ร่างกาย ซึ่งไขมันชนิดนี้จะช่วยกำจัดคอเลสเตอรอลส่วนเกินออกไปด้วย

ส่วนอีกงานวิจัยที่ศึกษาโดยให้หนูทดลองบริโภคสารสกัดจากปลาหมึกกล้วยเป็นเวลา 4 สัปดาห์ ผลการทดลองพบว่า สารจากปลาหมึกกล้วยมีประสิทธิภาพในการลดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ลงประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ และลดไขมันคอเลสเตอรอลลงประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ในกลุ่มหนูทดลองที่บริโภคสารดังกล่าวเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้บริโภคสารนี้ โดยสารสกัดจากปลาหมึกช่วยลดการดูดซึมกรดน้ำดีในลำไส้เล็กและยับยั้งการสร้างไขมันในตับด้วย

แม้ปลาหมึกอาจมีไขมันชนิดที่ดีที่ช่วยลดระดับไขมันไม่ดีในร่างกายได้ แต่ยังคงต้องศึกษาให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพื่อนำผลลัพธ์ไปประยุกต์ใช้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพได้จริงในอนาคต ดังนั้นขณะนี้เราควรรับประทานปลาหมึกในปริมาณพอเหมาะ เพราะหากบริโภคปริมาณมากอาจเสี่ยงมีไขมันสะสมในร่างกายมากเกินไป เพราะในปลาหมึกมีไขมันอิ่มตัวและไขมันชนิดอื่นๆ อยู่ด้วย

  • ปลาหมึกลดความดันโลหิต

มีงานวิจัยหนึ่งที่ให้หนูทดลองรับประทานโปรตีนที่มีฤทธิ์ต้านเอนไซม์ ACE ซึ่งสกัดได้จากส่วนกล้ามเนื้อของปลาหมึกกระดอง พบว่าสารดังกล่าวช่วยลดระดับความดันซิสโตลิกหรือความดันขณะหัวใจบีบตัวลงได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยผลลัพธ์นี้อาจเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการรักษาภาวะความดันโลหิตสูง และป้องกันโรคร้ายต่าง ๆ ที่อาจเกิดจากความดันโลหิตสูงได้ในอนาคต
แม้จะปรากฏประสิทธิผลของการบริโภคปลาหมึกต่อการลดระดับความดันโลหิต แต่มีเพียงระดับความดันซิสโตลิกที่ลดลง อีกทั้งยังเป็นงานวิจัยขนาดเล็กที่ทดลองในสัตว์เท่านั้น จึงควรค้นคว้าทดลองในมนุษย์และขยายกลุ่มทดลองให้มีขนาดใหญ่ เพื่อยืนยันประสิทธิผลจากการบริโภคปลาหมึกให้ชัดเจนต่อไป

  • ปลาหมึกช่วยสมานแผล

มีงานวิจัยที่ค้นคว้าคุณสมบัติของเจลคอลลาเจนที่ได้จากผิวหนังชั้นนอกของปลาหมึกกระดองในห้องปฏิบัติการ พบว่าหลังจากทาสารชนิดนี้ แผลติดกันเร็วขึ้น ซึ่งอาจพัฒนาสารดังกล่าวไปเป็นยาสมานแผลได้ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม การค้นคว้าข้างต้นเป็นเพียงการทดลองในสัตว์หรือศึกษาผ่านการส่องกล้องจุลทรรศน์เท่านั้น จึงไม่อาจสรุปประสิทธิผลของสารสกัดจากปลาหมึกต่อการสมานแผลได้อย่างแน่ชัดในขณะนี้ และควรศึกษาทดลองให้ชัดเจนในมนุษย์ต่อไป ทั้งในด้านประสิทธิผลต่อสุขภาพและความปลอดภัยจากการใช้หรือการบริโภคปลาหมึกและผลิตภัณฑ์จากปลาหมึก

ปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดปริมาณที่แนะนำในการรับประทานปลาหมึกที่ชัดเจน เราจึงควรรับประทานปลาหมึกที่สด สะอาด และปรุงสุก ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะในปลาหมึกมีทั้งไขมันอิ่มตัวและไขมันชนิดอื่นๆอยู่ด้วย

ที่มา : pobpad.com

Share:

Twitter
Pinterest
LinkedIn
WhatsApp
Reddit

Related Posts

On Key